Bangpakok Hospital

สิ่งที่เด็กควรรู้เมื่อต้องสวมหน้ากาก

11 ส.ค. 2564




ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสที่เป็นอันตราย การป้องกันการติดเชื้อที่เหมาะสมที่สุดคือการสวมหน้ากากอนามัย โดยการสวมหน้ากากอนามัยในเด็กจัดเป็นวิธีมาตรฐานที่จะช่วยลดการแพร่กระจาย และยังป้องกันผู้สวมใส่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ ที่มีอาการ ไอหรือจาม

ซึ่งกลุ่มทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้ความสำคัญป้องกันเป็นพิเศษเพราะภูมิคุ้มกันยังไม่เต็มที่อาจได้รับเชื้ออย่างง่ายดาย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการศึกษาข้อปฏิบัติเมื่อต้องสวมหน้ากากให้กับเด็ก

องค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ (UNICEF) ได้ร่วมกันปรับปรุงแนวทางในการสวมหน้ากากอนามัยให้กับเด็ก เพื่อป้องการติดเชื้อโควิด-19ขึ้น มีดังนี้
1. เด็กที่มีสุขภาพปกติ สามารถสวมหน้ากากที่ไม่ใช่หน้ากากทางการแพทย์หรือหน้ากากผ้าได้
2. เด็กควรทำตามหลักการเดียวกับผู้ใหญ่ในการสวมหน้ากาก รวมถึงล้างมือก่อนสวมหน้ากากด้วย
3. ผู้ใหญ่ต้องมั่นใจว่าหน้ากากที่เตรียมไว้ให้เด็กมีขนาดเหมาะสม สามารถปิดจมูก ปาก และคางของเด็กได้มิดชิด และสอนวิธีใส่ ถอด และการสวมหน้ากากอย่างปลอดภัยให้เด็ก รวมถึงสอนเด็กไม่ให้เอามือไปสัมผัสหน้ากากด้านหน้า และไม่ดึงลงมาไว้ใต้คางหรือในปาก
4. ควรเก็บหน้ากากไว้ในกระเป๋าหรือภาชนะอื่นที่เหมาะสม และไม่ใช้หน้ากากร่วมกับผู้อื่น
5. ก่อนให้เด็กสวมหน้ากาก ต้องประเมินการใช้หน้ากากของเด็กทุกวัยที่มีพัฒนาการผิดปกติ ความพิการ หรือมีปัญหาสุขภาพอื่น โดยพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู และผู้ให้บริการทางการแพทย์ของเด็กคนนั้น
6. เด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหลอดลมโป่งพอง หรือมะเร็ง ควรสวมหน้ากากทางการแพทย์ โดยปรึกษาแพทย์ก่อน
7. เด็กที่มีอาการของโควิด-19 ควรสวมหน้ากากทางการแพทย์ แยกเด็กออกจากผู้อื่น รวมทั้งสมาชิกครอบครัว ในส่วนของผู้ดูแลที่ต้องใกล้ชิดเด็กป่วย ในระยะต่ำกว่า 1 เมตร ที่บ้านก็ต้องสวมหน้ากากเช่นกัน
8. หากมีผู้ป่วยในบ้าน และสมาชิกต้องเข้าใกล้ในระยะต่ำกว่า 1 เมตร ควรสวมหน้ากากทางการแพทย์ตลอดเวลาทั้งเด็ก และผู้ใหญ่
9. เด็กไม่ควรสวมหน้ากากระหว่างเล่นกีฬาหรือออกแรงอื่นๆ เช่น วิ่ง กระโดด เล่นในสนามเด็กเล่น เพื่อจะได้ไม่ขัดขวางการหายใจ เมื่อจัดกิจกรรมเหล่านี้ให้เด็ก ควรมีมาตรการทางสาธารณสุขที่สำคัญ ได้แก่ การรักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร จำกัดจำนวนเด็กที่เล่นด้วยกัน และเตือนให้เด็กล้างมือบ่อยๆ
10. ถ้าเด็กจำเป็นต้องใส่เฟซชิลด์ ควรปิดคลุมทั้งหน้า โค้งปิดด้านข้างใบหน้า ยาวลงไปใต้คาง ขณะใส่ควรระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บที่ทำให้เฟซชิลด์แตกหัก และเป็นอันตรายต่อดวงตาหรือใบหน้าได้

ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญที่จะปลูกฝังเด็กๆให้มีสุขอนามัยที่ดี ซึ่งการปฏิบัติตามชีวิตวิถีใหม่ ได้แก่ การล้างมือ การเว้นระยะห่าง และการสวมหน้ากาก นอกจากช่วยป้องกันโควิด-19 แล้ว ยังสามารถป้องกันโรคอื่นๆได้อีกด้วย
รู้อย่างนี้แล้วก่อนออกจากบ้าน คุณพ่อคุณแม่ อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยให้ตัวเองและเด็กๆกันด้วย เพื่อความปลอดภัยของทุกคน




Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.