Bangpakok Hospital

ปัญหาสุขภาพช่องปาก ของผู้สูงอายุ

2 ธ.ค. 2568

สุขภาพช่องปากเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผู้สูงอายุ เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเคี้ยวอาหาร การพูด ความมั่นใจ รวมถึงคุณภาพชีวิตโดยรวม เมื่อสุขภาพช่องปากไม่ดี ผู้สูงอายุอาจเคี้ยวอาหารไม่ได้ อาหารไม่ย่อย น้ำหนักลด หรือเสี่ยงติดเชื้อในช่องปากได้ง่าย การเข้าใจปัญหาที่พบบ่อยจะช่วยให้ผู้สูงอายุและผู้ดูแลสามารถป้องกันและดูแลได้อย่างเหมาะสม

ปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบบ่อย

  1. ฟันผุและรากฟันผุ เมื่ออายุมากขึ้น เคลือบฟันจะบางลงตามธรรมชาติ ทำให้ “ผุได้ง่าย” โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีเหงือกร่นจน รากฟันโผล่พ้นเหงือก ซึ่งเป็นบริเวณที่ผุได้รวดเร็วมาก

สาเหตุที่พบบ่อย

  • เคลือบฟันสึกจากการใช้งานนานหลายปี
  • เหงือกร่นทำให้รากฟันเปิดโล่ง
  • ปากแห้งจากอายุหรือการใช้ยา
  • การทำความสะอาดช่องปากไม่ทั่วถึง

อาการที่สังเกตได้

  • ปวดฟัน เสียวฟัน
  • เคี้ยวลำบาก อาหารติดฟันบ่อย
  • ผุที่รากฟันลุกลามจนต้องรักษารากฟันหรือถอนฟัน

หากปล่อยไว้จะส่งผลให้ผู้สูงอายุ “เคี้ยวไม่ได้ น้ำหนักลด และคุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก

  1. ปัญหาน้ำลายแห้ง (ปากแห้ง) เป็นปัญหาที่พบมากในผู้สูงอายุ เนื่องจาก การหลั่งน้ำลายลดลงตามวัย รวมถึงผลข้างเคียงของยา เช่น ยาลดความดัน ยาแก้แพ้ ยาต้านซึมเศร้า

 ผลกระทบของภาวะปากแห้ง

  • เคี้ยวและกลืนลำบาก
  • พูดไม่สะดวก เสียงแห้ง
  • เสียวฟันหรือแสบร้อนในปาก
  • ฟันผุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • เสี่ยงติดเชื้อราในช่องปาก

น้ำลายถือเป็น “เกราะป้องกันธรรมชาติ” เมื่อมีน้อย ปัญหาช่องปากจะเกิดง่ายและรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

  1. ฟันสึก ฟันสึกเกิดได้จากการกัดฟันตอนกลางคืน การแปรงฟันแรง การเคี้ยวอาหารแข็ง รวมถึงกรดไหลย้อนที่ทำให้ผิวฟันกร่อน

ผลกระทบของฟันสึก

  • เสียวฟันเวลาโดนของร้อน–เย็น
  • เคี้ยวลำบาก
  • ฟันสั้นลง ไม่สวยงาม
  • เนื้อฟันด้านในเปิด ทำให้ผุง่ายขึ้น

หากไม่ได้รับการรักษา ฟันสึกอาจลุกลามจนต้องอุดฟัน เคลือบฟัน หรือต้องทำครอบฟันเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันหัก

  1. โรคเหงือกอักเสบเรื้อรัง / โรคปริทันต์ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น เหงือกและกระดูกเบ้าฟันจะมีการเสื่อมตามธรรมชาติ ทำให้เป็นโรคเหงือกได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่ทำความสะอาดฟันไม่สม่ำเสมอ หรือมีหินปูนสะสม

หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดผลรุนแรง เช่น

  • เหงือกบวม แดง เลือดออกง่าย
  • ลุกลามทำลายเอ็นยึดฟันและกระดูก
  • ฟันโยก เคี้ยวไม่ได้
  • เสี่ยงสูญเสียฟันถาวร

เมื่อฟันหายไป ผู้สูงอายุจะเคี้ยวอาหารลำบากลงมาก ส่งผลให้เลือกอาหารได้น้อยลง ทำให้น้ำหนักลดและร่างกายอ่อนแอ

วิธีป้องกันปัญหาช่องปากในผู้สูงอายุ

การดูแลป้องกันอย่างถูกวิธีสามารถช่วยลดความเสี่ยงปัญหาช่องปากได้มาก โดยควรปฏิบัติดังนี้

 1. แปรงฟันตามกฎ 2–2–2

  • แปรงฟัน วันละ 2 ครั้ง
  • ครั้งละ 2 นาที
  • งดอาหาร 2 ชั่วโมงหลังแปรงฟัน ช่วยลดฟันผุและลดการสะสมของคราบแบคทีเรีย

 

2. ใช้ฟลูออไรด์และ “เคลือบฟลูออไรด์”

  • ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เป็นประจำ
  • ทำ เคลือบฟลูออไรด์ ช่วย
    • เสริมความแข็งแรงของฟัน
    • ลดฟันผุ โดยเฉพาะรากฟัน
    • ลดอาการเสียวฟัน เหมาะมากสำหรับผู้สูงอายุที่มีเคลือบฟันบางลงและมีเหงือกร่น

3. ทำความสะอาดซอกฟันทุกวัน

ใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันเพื่อลดคราบอาหารและหินปูน ช่วยลดความเสี่ยงต่อเหงือกอักเสบและฟันโยก

4. ตรวจฟันและขูดหินปูนทุก 6 เดือน

ช่วยตรวจพบปัญหาได้เร็ว เช่น ฟันผุ รากฟันผุ ฟันสึก หรือโรคเหงือก ก่อนลุกลามเป็นปัญหาที่ต้องรักษายากขึ้น

5. ดื่มน้ำบ่อย กระตุ้นน้ำลาย

ช่วยลดอาการปากแห้ง ทำให้เคี้ยวง่ายขึ้น และช่วยชะล้างเศษอาหาร ลดโอกาสเกิดฟันผุ

 

ผู้สูงอายุมีปัญหาช่องปากได้ง่ายขึ้นจากการเสื่อมตามวัย ไม่ว่าจะเป็นฟันผุ รากฟันผุ ปากแห้ง ฟันสึก หรือโรคเหงือกเรื้อรัง แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลที่ถูกต้อง เช่น แปรงฟันตามกฎ 2–2–2 ใช้ฟลูออไรด์ เคลือบฟลูออไรด์ ทำความสะอาดซอกฟัน ตรวจสุขภาพฟันสม่ำเสมอ และดื่มน้ำบ่อย

หากดูแลอย่างถูกวิธี ผู้สูงอายุก็สามารถมีฟันที่แข็งแรง เคี้ยวอาหารได้ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้เช่นกัน



 

Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.