งูสวัดในผู้สูงอายุ เรื่องใกล้ตัวที่ควรระวัง
โรคงูสวัด (Herpes Zoster) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับอีสุกอีใส ซึ่งอาจแฝงตัวอยู่ในร่างกายเป็นเวลานานหลายปี หลังจากเคยติดเชื้อมาก่อน เมื่อร่างกายอ่อนแอหรือมีภูมิคุ้มกันลดลง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เชื้อไวรัสนี้อาจกลับมาทำงานอีกครั้ง จนก่อให้เกิดอาการของโรคงูสวัด
อาการของโรคงูสวัด
ผู้ป่วยมักเริ่มจากอาการปวดแสบ ปวดร้อน หรือรู้สึกชาเฉพาะจุดบริเวณผิวหนัง จากนั้นจะมี ผื่นแดงหรือตุ่มน้ำใสคล้ายอีสุกอีใส ปรากฏเป็นแนวยาวตามแนวเส้นประสาท เช่น บริเวณลำตัว เอว หรือใบหน้า ต่อมาตุ่มน้ำเหล่านี้จะแตก แห้ง และตกสะเก็ดภายใน 2–4 สัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ
แม้โรคงูสวัดจะหายได้เอง แต่ในผู้สูงอายุอาจมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น
- ปวดเส้นประสาทแม้ผื่นหายแล้ว อาการปวดแสบปวดร้อนอาจคงอยู่นานหลายเดือนหรือเป็นปี
- แผลติดเชื้อแบคทีเรีย หากเกาหรือดูแลแผลไม่ถูกวิธี
- งูสวัดขึ้นใกล้ดวงตา อาจกระทบต่อกระจกตา ทำให้ตามัวหรือถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น
การป้องกันและดูแล
- พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- หลีกเลี่ยงความเครียด และดูแลสุขภาพให้สมดุล
- เข้ารับวัคซีนป้องกันงูสวัด โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรค
โรคงูสวัดอาจดูไม่ร้ายแรงในช่วงแรก แต่หากละเลยอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุได้ การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและเข้ารับวัคซีนจึงเป็นทางเลือกสำคัญที่จะช่วย “ป้องกันก่อนเจ็บจริง”