Bangpakok Hospital

เหงือกบวม เหงือกอักเสบ สัญญาณเตือนที่ห้ามละเลย

10 พ.ย. 2568

หลายคนอาจเคยรู้สึกเจ็บหรือบวมบริเวณเหงือก โดยเฉพาะเวลาที่แปรงฟันหรือเคี้ยวอาหาร อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของ “เหงือกอักเสบ” ซึ่งหากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจลุกลามจนกลายเป็นโรคปริทันต์ ส่งผลให้ฟันโยกหรือสูญเสียฟันได้ในที่สุด

สาเหตุที่ทำให้เหงือกบวมและเหงือกอักเสบ

  1. การทำความสะอาดช่องปากไม่ทั่วถึง
    คราบพลัคและเศษอาหารที่ตกค้างบริเวณขอบเหงือกจะสะสมจนกลายเป็นหินปูน ทำให้เหงือกอักเสบ บวม และมีเลือดออกง่าย

  2. ภาวะปากแห้ง หรือน้ำลายหลั่งน้อยกว่าปกติ
    น้ำลายมีหน้าที่ช่วยชะล้างแบคทีเรีย หากน้ำลายลดลงจะทำให้เชื้อแบคทีเรียสะสมมากขึ้น จนเกิดการอักเสบของเหงือกได้

  3. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
    ในช่วงตั้งครรภ์ หรือช่วงมีประจำเดือน ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งอาจทำให้เหงือกไวต่อการอักเสบมากขึ้น

  4. การใช้ยาบางประเภท
    เช่น ยากันชัก หรือยาที่มีผลต่อการหลั่งน้ำลาย อาจทำให้เหงือกบวม หรือน้ำลายลดลง ส่งผลให้แบคทีเรียสะสมในช่องปากได้ง่ายขึ้น

วิธีดูแลและป้องกันเหงือกอักเสบ

  • แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันทุกวัน
  • พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
    ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และลดการรับประทานของหวาน
  • หากมีอาการเหงือกบวม เจ็บ หรือมีเลือดออก ควรรีบพบ ทันตแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

สรุป

เหงือกบวมหรือเหงือกอักเสบอาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่แท้จริงแล้วเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพช่องปากที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยไว้นานอาจส่งผลต่อสุขภาพฟันและช่องปากในระยะยาวได้ การดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอและพบแพทย์ทันตกรรมตามนัด จึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันปัญหาเหล่านี้



 

Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.