วิธีการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉิน ตามระดับความเร่งด่วนและการส่งตรวจ
ในกรณีที่เข้ารับบริการที่ ห้องฉุกเฉิน (Emergency Room: ER) ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดความสงสัยว่า “มาถึงก่อนแต่ทำไมยังไม่ได้รับการดูแล” หรือ “ทำไมเจ้าหน้าที่ไปดูแลคนอื่นก่อน” อาจเป็นบางกรณีที่ผู้ป่วยต้องรอการดูแล เนื่องจากมีผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีอาการรุนแรงกว่ามาในช่วงเวลาเดียวกัน จึงมีการ จัดลำดับและคัดแยกผู้ป่วยตามระดับความเร่งด่วน (สี) เพื่อให้ทีมแพทย์สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะวิกฤติได้อย่างทันท่วงที และเกิดความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้มารับบริการ
1. ผู้ป่วยฉุกเฉินสีเขียว : ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง
ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอาการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยแบบเฉียบพลัน แต่ยังไม่ถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต เช่น แผลถลอก ฟกช้ำเล็กน้อย ไข้ไม่สูง หรือปวดท้องแบบไม่รุนแรง ผู้ป่วยสามารถรอรับการรักษาได้ชั่วระยะเวลา หรือเดินทางมารับบริการทางการแพทย์ด้วยตนเอง
ลักษณะอาการและตัวอย่าง
- มีแผลถลอกหรือฟกช้ำแต่ไม่เลือดออกมาก
- ปวดศีรษะหรือปวดกล้ามเนื้อเล็กน้อย
- มีไข้ต่ำหรือมีอาการไอเล็กน้อย
- ปวดท้องหรือท้องเสียไม่รุนแรง
ข้อควรระวัง
แม้เป็นผู้ป่วยสีเขียว แต่ถ้าอาการแย่ลง เช่น มีไข้สูง หน้ามืด เป็นลม หรืออาการปวดรุนแรงขึ้น ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
2. ผู้ป่วยฉุกเฉินสีเหลือง : ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน
ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอาการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยค่อนข้างรุนแรง จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงหรือส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะสำคัญในอนาคต
ลักษณะอาการและตัวอย่าง
- มีแผลลึกหรือเลือดออกปานกลาง
- ปวดหน้าอกหรือหายใจลำบาก
- มีอาการวิงเวียน หน้ามืดอย่างต่อเนื่อง
- ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เสี่ยงต่อกระดูกหรืออวัยวะภายใน
ความสำคัญในการดูแล
ผู้ป่วยสีเหลืองควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว เพราะหากละเลย อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นวิกฤตได้
3. ผู้ป่วยฉุกเฉินสีแดง : ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอาการรุนแรงถึงชีวิต เช่น หยุดหายใจ ช็อก หมดสติ หรือมีเลือดออกมาก จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ทันที
ลักษณะอาการและตัวอย่าง
- หมดสติหรือไม่รู้สึกตัว
- หยุดหายใจหรือหายใจลำบากอย่างรุนแรง
- ช็อกหรือความดันโลหิตต่ำอย่างมาก
- เลือดออกจำนวนมากจากอวัยวะภายในหรือภายนอก
- อาการจากโรคหัวใจเฉียบพลันหรือโรคสมองฉับพลัน
ความสำคัญในการดูแล
การช่วยเหลือผู้ป่วยสีแดงต้องทำโดยแพทย์และทีมฉุกเฉินที่มีความเชี่ยวชาญ การให้ความช่วยเหลือช้าเพียงไม่กี่นาที อาจทำให้เสียชีวิตหรือพิการถาวรได้
ทำไมการจำแนกระดับผู้ป่วยฉุกเฉินจึงสำคัญ
- ลดความเสี่ยงต่อชีวิตและอวัยวะสำคัญ – ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจะได้รับการดูแลทันเวลา
- จัดลำดับความสำคัญของผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม – ไม่ทำให้ผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงรบกวนผู้ป่วยวิกฤต
- เพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาและทรัพยากรทางการแพทย์ – ทีมแพทย์สามารถวางแผนการดูแลได้อย่างมีระบบ
- สร้างความเข้าใจให้กับประชาชน – ทำให้ผู้ป่วยรู้ว่าอาการแบบไหนควรมาพบแพทย์ทันที
การสังเกตอาการและรู้จักจำแนกระดับผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นความรู้พื้นฐานที่ทุกคนควรทราบ ไม่เพียงช่วยให้ตัวเองปลอดภัย แต่ยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ