Bangpakok Hospital

วิธีการตรวจคัดกรองเต้านมด้วยตัวเอง

10 ต.ค. 2568

ผู้หญิงหลายคนมักละเลยการตรวจเต้านม ทั้งการตรวจด้วยตนเองและการตรวจโดยแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นเพราะความอาย ความกลัวว่าจะเจอก้อน หรือเข้าใจผิดว่าหากไม่มีอาการก็ไม่จำเป็นต้องตรวจ ทั้งที่ในความเป็นจริงมะเร็งเต้านมอาจเกิดขึ้นได้แม้ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ เลย

การตรวจเต้านมเป็นประจำถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากพบความผิดปกติตั้งแต่ระยะแรก โอกาสในการรักษาให้หายขาดจะสูงมาก การรู้จักวิธีตรวจที่ถูกต้องจึงช่วยให้ผู้หญิงสามารถดูแลตนเองได้ทันท่วงที และลดความเสี่ยงจากโรคร้ายในอนาคต

วิธีตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง

ตรวจง่าย…แต่สำคัญ ช่วยให้คุณรู้ทันก่อนสายเกินไป มะเร็งเต้านม (Breast Cancer) เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิงไทยและทั่วโลก แต่ข่าวดีคือ หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะสามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอัตราการรอดชีวิตสูงกว่า 90%

หนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่ผู้หญิงทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง คือ “การตรวจเต้านมด้วยตนเอง” (Self Breast Examination : SBE) เป็นการสังเกตและคลำหาความผิดปกติของเต้านม ซึ่งช่วยให้คุณตรวจพบสัญญาณเตือนตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่มะเร็งจะลุกลาม

ควรตรวจเต้านมเมื่อไรดี?

  • ตรวจเป็นประจำ เดือนละ 1 ครั้ง
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ หลังหมดประจำเดือน 7-10 วัน เพราะเต้านมจะนิ่ม ไม่เจ็บ และไม่มีอาการบวมหรือคัด
  • สำหรับผู้ที่หมดประจำเดือนแล้ว หรือไม่มีรอบเดือน ให้เลือกวันที่จำได้ง่ายในแต่ละเดือน เช่น วันที่ 1 หรือ 15 ของเดือน
 

ขั้นตอนที่ 1 : “ดู” สังเกตความผิดปกติด้วยสายตา

เริ่มจากการ ยืนหน้ากระจก เพื่อดูลักษณะของเต้านมทั้งสองข้าง โดยให้ถอดเสื้อชั้นในออกและยืนในที่มีแสงสว่างเพียงพอ

ท่าที่ 1 : วางแขนข้างลำตัว

  • สังเกตรูปร่างและขนาดของเต้านมทั้งสองข้าง ว่ามีความแตกต่างกันมากผิดปกติหรือไม่
  • ดูสีผิวเต้านม ว่ามีรอยแดง ผื่น หรือผิวหนังลักษณะคล้ายเปลือกส้ม หรือไม่

ท่าที่ 2 : ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะทั้งสองข้าง 

  • สังเกตว่ามี รอยบุ๋ม รอยดึงรั้ง หรือผิวหนังบิดเบี้ยว หรือไม่
  • ดูว่าหัวนมมีการเปลี่ยนแปลง เช่น หัวนมบอด หรือมีของเหลวไหลออกมาผิดปกติหรือไม่

ท่าที่ 3 : เท้าเอว โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย

  • ดูว่ามีการยกตัวหรือรั้งของเต้านมหรือไม่ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงก้อนภายในที่ดึงรั้งเนื้อเยื่อ
  • หากสังเกตพบความผิดปกติ เช่น ก้อนแข็ง ผิวหนังย่น หัวนมบอด หรือมีน้ำเลือดไหล ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจเพิ่มเติม

ขั้นตอนที่ 2 : “คลำ” ตรวจหาความผิดปกติด้วยมือ

การคลำควรทำทั้งใน ท่านอนราบ และ ท่ายืน (ขณะอาบน้ำ) เพราะสบู่จะช่วยให้คลำได้ลื่นและรู้สึกชัดเจนมากขึ้น

วิธีที่ 1 : คลำแบบวงกลม 

  • ใช้ปลายนิ้วสามนิ้ว (นิ้วชี้ กลาง นาง) คลำเบา ๆ เป็นวงกลมจากรอบนอกเข้าหาหัวนม
  • สามารถคลำได้ทั้ง ตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกา เพื่อให้ทั่วถึงทุกส่วนของเต้านม

วิธีที่ 2 : คลำในแนวดิ่ง 

  • เริ่มคลำจากบริเวณใต้ราวนมขึ้นไปจนถึงกระดูกไหปลาร้า
  • เคลื่อนมือขึ้นลงเป็นเส้นตรง ค่อย ๆ ตรวจหารอยแข็ง ก้อน หรือจุดเจ็บ

วิธีที่ 3 : คลำแบบรูปลิ่ม 

  • เริ่มจากขอบเต้านมด้านนอก เข้าหาหัวนมทีละส่วนคล้ายการตัดแบ่งเค้ก
  • ตรวจอย่างทั่วถึงทุกส่วนของเต้านม

ระหว่างคลำ ให้กดเบาๆ แล้วค่อยเพิ่มแรงทีละน้อย เพื่อสัมผัสได้ถึงก้อนที่อยู่ลึกลงไปในเนื้อเต้านม และอย่าลืมคลำบริเวณรักแร้ด้วย เพราะต่อมน้ำเหลืองบริเวณนี้อาจโตขึ้นเมื่อมีความผิดปกติ


หากพบความผิดปกติ ควรทำอย่างไร?

หากตรวจพบสิ่งผิดปกติ เช่น

  • มีก้อนแข็งหรือเนื้อหนาแน่นในเต้านม
  • หัวนมมีของเหลวไหลออกมา (โดยเฉพาะเลือด)
  • ผิวหนังเต้านมย่น หรือมีลักษณะคล้ายเปลือกส้ม
  • รู้สึกเจ็บเฉพาะจุด หรือเต้านมมีรูปร่างเปลี่ยนแปลง

ควร รีบมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจเพิ่มเติม เช่น

  • การตรวจเต้านมโดยแพทย์ (Clinical Breast Examination : CBE)
  • การเอกซเรย์เต้านม (Mammogram)
  • การอัลตราซาวด์เต้านม (Breast Ultrasound)

การตรวจเหล่านี้ช่วยยืนยันว่าก้อนที่พบเป็นเนื้องอกธรรมดา หรือมีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา การตรวจเต้านมด้วยตนเอง ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ช่วยให้คุณ รู้จักร่างกายของตัวเองมากขึ้น และสังเกตความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะ “ยิ่งพบเร็ว โอกาสรักษาหายยิ่งสูง”

อย่าลืม ตรวจเต้านมด้วยตัวเองทุกเดือน และตรวจคัดกรองประจำปีที่โรงพยาบาล เพื่อความมั่นใจในสุขภาพของคุณ



Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.