3 ปัญหาในช่องปาก ที่ทำลายความมั่นใจ
ในช่วงเปิดเทอมแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างก็กลับเข้าสู่กิจวัตรที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยความเครียด ทั้งการเรียน การทำงาน และการเดินทางฝ่าฝนในฤดูฝน ซึ่งหลายคนอาจมองข้ามเรื่องเล็กๆ อย่างสุขภาพช่องปากไปโดยไม่รู้ตัว
แต่รู้หรือไม่ว่า... พฤติกรรมเล็กๆ เหล่านี้อาจเปิดทางให้โรคในช่องปากเข้ามาทำลายความมั่นใจ และรบกวนชีวิตประจำวันได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะ 3 โรคยอดฮิตที่พบได้บ่อยในช่วงเปิดเทอม ได้แก่ แผลร้อนใน โรคเหงือกอักเสบ และ โรคฟันผุ ที่อาจเริ่มจากอาการเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ดูแลให้ดี ก็อาจลุกลามจนส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้
3 โรคในช่องปาก ทำลายความมั่นใจ
1. แผลร้อนใน
ลักษณะ : เป็นแผลตื้นๆ ในช่องปาก มักเกิดบริเวณกระพุ้งแก้ม ลิ้น เพดานปาก หรือริมฝีปากด้านใน มักเจ็บหรือแสบเวลาเคี้ยว พูด หรือแปรงฟัน
สาเหตุ :
- ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ
- ความเครียดสะสม
- พักผ่อนไม่เพียงพอ
- การขาดวิตามิน เช่น วิตามิน B1, B6, B12, และธาตุเหล็ก
- การกัดกระพุ้งแก้มโดยไม่รู้ตัว
การป้องกัน :
- นอนหลับให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำสะอาดวันละมากๆ
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด หรือเปรี้ยว
- เสริมวิตามินจากผักผลไม้
- รักษาความสะอาดภายในช่องปาก
2. โรคเหงือกอักเสบ
ลักษณะ : เหงือกมีอาการบวม แดง และมีเลือดออกง่าย โดยเฉพาะขณะแปรงฟัน หากปล่อยไว้อาจลุกลามกลายเป็นโรคปริทันต์ ซึ่งทำให้ฟันหลุดได้
สาเหตุ :
- คราบพลัค (Plaque) และแบคทีเรียสะสมตามแนวเหงือก
- แปรงฟันไม่สะอาดหรือแปรงฟันไม่ถึงบริเวณซอกฟัน
- ไม่ใช้ไหมขัดฟัน
- สูบบุหรี่
- ภาวะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ขณะตั้งครรภ์
- โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน
การป้องกัน :
- แปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
- ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน เพื่อขจัดคราบอาหารในซอกฟัน
- หมั่นตรวจสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์ทุก 6 เดือน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน
3. ฟันผุ
ลักษณะ : เริ่มจากจุดดำเล็กๆ บนผิวฟัน และลึกลงเป็นรูโพรง หากไม่รักษาอาจลุกลามจนถึงโพรงประสาทฟัน ทำให้ปวดฟัน และเสี่ยงสูญเสียฟัน
สาเหตุของฟันผุ
- การสะสมของคราบอาหารและแบคทีเรียในช่องปาก โดยเฉพาะแบคทีเรียที่ย่อยแป้งและน้ำตาล แล้วปล่อยกรดออกมา ซึ่งกรดจะไปทำลายชั้นเคลือบฟัน
- รับประทานของหวาน น้ำตาล หรือเครื่องดื่มรสหวานบ่อยๆ
- แปรงฟันไม่สะอาด หรือแปรงฟันไม่ครบทุกซี่
- ไม่ใช้ไหมขัดฟัน ทำให้มีเศษอาหารติดในซอกฟัน
- น้ำลายน้อย หรือปากแห้ง (เช่น จากยาบางชนิด) ซึ่งลดความสามารถในการชะล้างคราบกรด
- พฤติกรรมการกินบ่อย โดยเฉพาะการกินจุบจิบ ทำให้กรดมีโอกาสทำลายฟันตลอดทั้งวัน
การป้องกัน :
- แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ โดยใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
- ลดอาหารหวานและน้ำอัดลม
- ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน
- พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและขูดหินปูนเป็นประจำ
เคล็ดลับป้องกันง่ายๆ ด้วยสูตร “แปรงฟัน 2 2 2”
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (เช้า-ก่อนนอน)
- แปรงแต่ละครั้ง 2 นาที ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
- หลังอาหารควรรอ 2 ชั่วโมง ก่อนแปรงฟัน เพื่อป้องกันการทำลายผิวเคลือบฟัน