Bangpakok Hospital

3 ปัญหาในช่องปาก ที่ทำลายความมั่นใจ

18 ก.ค. 2568

ในช่วงเปิดเทอมแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างก็กลับเข้าสู่กิจวัตรที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยความเครียด ทั้งการเรียน การทำงาน และการเดินทางฝ่าฝนในฤดูฝน ซึ่งหลายคนอาจมองข้ามเรื่องเล็กๆ อย่างสุขภาพช่องปากไปโดยไม่รู้ตัว

แต่รู้หรือไม่ว่า... พฤติกรรมเล็กๆ เหล่านี้อาจเปิดทางให้โรคในช่องปากเข้ามาทำลายความมั่นใจ และรบกวนชีวิตประจำวันได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะ 3 โรคยอดฮิตที่พบได้บ่อยในช่วงเปิดเทอม ได้แก่ แผลร้อนใน  โรคเหงือกอักเสบ และ โรคฟันผุ ที่อาจเริ่มจากอาการเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ดูแลให้ดี ก็อาจลุกลามจนส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้

3 โรคในช่องปาก ทำลายความมั่นใจ

1. แผลร้อนใน

ลักษณะ : เป็นแผลตื้นๆ ในช่องปาก มักเกิดบริเวณกระพุ้งแก้ม ลิ้น เพดานปาก หรือริมฝีปากด้านใน มักเจ็บหรือแสบเวลาเคี้ยว พูด หรือแปรงฟัน

สาเหตุ :

  • ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ
  • ความเครียดสะสม
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • การขาดวิตามิน เช่น วิตามิน B1, B6, B12, และธาตุเหล็ก
  • การกัดกระพุ้งแก้มโดยไม่รู้ตัว

การป้องกัน :

  • นอนหลับให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำสะอาดวันละมากๆ
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด หรือเปรี้ยว
  • เสริมวิตามินจากผักผลไม้
  • รักษาความสะอาดภายในช่องปาก

2. โรคเหงือกอักเสบ

ลักษณะ : เหงือกมีอาการบวม แดง และมีเลือดออกง่าย โดยเฉพาะขณะแปรงฟัน หากปล่อยไว้อาจลุกลามกลายเป็นโรคปริทันต์ ซึ่งทำให้ฟันหลุดได้

สาเหตุ :

  • คราบพลัค (Plaque) และแบคทีเรียสะสมตามแนวเหงือก
  • แปรงฟันไม่สะอาดหรือแปรงฟันไม่ถึงบริเวณซอกฟัน
  • ไม่ใช้ไหมขัดฟัน
  • สูบบุหรี่
  • ภาวะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ขณะตั้งครรภ์
  • โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน

การป้องกัน :

  • แปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
  • ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน เพื่อขจัดคราบอาหารในซอกฟัน
  • หมั่นตรวจสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์ทุก 6 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน
 

 3. ฟันผุ

ลักษณะ : เริ่มจากจุดดำเล็กๆ บนผิวฟัน และลึกลงเป็นรูโพรง หากไม่รักษาอาจลุกลามจนถึงโพรงประสาทฟัน ทำให้ปวดฟัน และเสี่ยงสูญเสียฟัน

สาเหตุของฟันผุ

  • การสะสมของคราบอาหารและแบคทีเรียในช่องปาก โดยเฉพาะแบคทีเรียที่ย่อยแป้งและน้ำตาล แล้วปล่อยกรดออกมา ซึ่งกรดจะไปทำลายชั้นเคลือบฟัน
  • รับประทานของหวาน น้ำตาล หรือเครื่องดื่มรสหวานบ่อยๆ
  • แปรงฟันไม่สะอาด หรือแปรงฟันไม่ครบทุกซี่
  • ไม่ใช้ไหมขัดฟัน ทำให้มีเศษอาหารติดในซอกฟัน
  • น้ำลายน้อย หรือปากแห้ง (เช่น จากยาบางชนิด) ซึ่งลดความสามารถในการชะล้างคราบกรด
  • พฤติกรรมการกินบ่อย โดยเฉพาะการกินจุบจิบ ทำให้กรดมีโอกาสทำลายฟันตลอดทั้งวัน

การป้องกัน :

  • แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ โดยใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
  • ลดอาหารหวานและน้ำอัดลม
  • ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน
  • พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและขูดหินปูนเป็นประจำ

เคล็ดลับป้องกันง่ายๆ ด้วยสูตร “แปรงฟัน 2 2 2”

  • แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (เช้า-ก่อนนอน)
  • แปรงแต่ละครั้ง 2 นาที ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
  • หลังอาหารควรรอ 2 ชั่วโมง ก่อนแปรงฟัน เพื่อป้องกันการทำลายผิวเคลือบฟัน



Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.