ส่งต่อภูมิคุ้มกัน จากแม่สู่ทารกในครรภ์ ด้วยวัคซีน RSV

ช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของผู้หญิงเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งด้านฮอร์โมน ระบบไหลเวียนโลหิต รวมถึงระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดูแลชีวิตน้อยๆ ในครรภ์ หนึ่งในกลไกลตามธรรมชาติ คือ ร่างกายจะปรับภูมิคุ้มกันให้ลดระดับลงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ต่อต้านทารกที่กำลังเติบโตในครรภ์ ซึ่งแม้จะมีข้อดีในแง่ของการตั้งครรภ์ที่ราบรื่น แต่ก็ทำให้แม่ตั้งครรภ์มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อทางเดินหายใจ RSV นอกจากนี้หากแม่ติดเชื้อในช่วงตั้งครรภ์ อาจไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพแม่ แต่อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนา และความปลอดภัยของทารกในครรภ์อีกด้วย

วัคซีน RSV สำหรับแม่ตั้งครรภ์คืออะไร

วัคซีน RSV (Respiratory Syncytial Virus) สำหรับหญิงตั้งครรภ์เป็นวัคซีนใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในแม่ และส่งต่อภูมิคุ้มกันไปยังทารก ช่วยให้ทารกมีภูมิคุ้มกันตั้งแต่แรกคลอด โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรก เป็นช่วงที่ทารกยังไม่สามารถรับวัคซีนเองได้ 

ประสิทธิภาพ

• ฉีดเพียง 1 เข็ม
• ควรฉีดในช่วงอายุครรภ์ 24 - 36 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาสร้างภูมิคุ้มกันและถ่ายทอดสู่ทารก
• ช่วยลดโอกาสที่ทารกจะช่วย RSV แบบรุนแรงได้ถึง 82%

ทำไมทารกต้องมีภูมิคุ้มกัน RSV 

ในช่วงแรกเกิดทารกมีระบบภูมิคุ้มกันที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ และยังไม่สามารถรับวัคซีนหลายชนิดได้ทันทีหลังคลอด ไวรัส RSV เป็นสาเหตุหลักของโรคในระบบทางเดินหายใจของเด็ก โดยเฉพาะในทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะอันตรายได้ เช่น

• ปอดอักเสบ ภาวะที่ปอดติดเชื้อและมีการอักเสบรุนแรง อาจทำให้หายใจลำบากและต้องรักษาในโรงพยาบาล
• หลอดลมฝอยอักเสบ ทำให้มีเสมหะ น้ำมูก หายใจเสียงดัง (เสียงหวีด)
• ภาวะพร่องออกซิเจน หายใจไม่พอ เสี่ยงต่อการขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง
• โรคหอบหืดในอนาคต ทารกที่ติดเชื้อ RSV รุนแรง มีโอกาสเป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรังได้มากขึ้น