Bangpakok Hospital

เครื่องดื่มแบบไหน ยิ่งดื่ม ยิ่งเพิ่มพุง

28 พ.ค. 2568

“ลดหวาน ลดพุง ลดโรค” ไม่ใช่แค่คำขวัญ แต่เป็นเรื่องจริงที่สะท้อนถึงสุขภาพของคนไทยในยุคปัจจุบันได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะกับเครื่องดื่มรสหวานที่หลายคนบริโภคเป็นประจำ โดยไม่รู้ตัวว่าแฝงไปด้วยน้ำตาลในปริมาณที่สูงจนน่าตกใจ มาดูกันว่า “เครื่องดื่มแบบไหน” ที่ควรระวัง เพราะยิ่งดื่ม ยิ่งเสี่ยงพุงป่อง เสี่ยงโรคตามมา และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องของรูปร่าง แต่รวมถึงโรคร้ายแรงอย่าง เบาหวาน ความดัน ไขมันพอกตับ และโรคหัวใจด้วย

  1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ เหล้า หรือค็อกเทลต่างๆ  แม้จะไม่หวานมากแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นหนึ่งในตัวการเพิ่มพุงที่หลายคนมองข้าม เพราะ…
  • ให้พลังงานสูงมาก เบียร์ 1 แก้ว (360 มล.) มีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 12 กรัม หรือเทียบเท่ากับน้ำตาลประมาณ 3 ช้อนชา
  • แอลกอฮอล์มีผลทำให้ ระบบเผาผลาญไขมันทำงานช้าลง เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะเร่งขับสารพิษจากแอลกฮอล์ก่อนเผาผลาญไขมัน ทำให้ไขมันสะสมง่ายขึ้น
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กระตุ้น ความอยากอาหาร โดยเฉพาะของมัน ของทอด

ดื่มบ่อย = พุงมาโดยไม่รู้ตัว

  1. เครื่องดื่มเย็น หวานจัด - ใส่นม ไม่ใส่นม ก็น้ำตาลพุ่ง เช่น ชานมไข่มุก ชาเย็น กาแฟเย็น น้ำเขียว น้ำแดงโซดา เครื่องดื่มประเภทนี้มักมีรสชาติหอมหวาน เย็นชื่นใจ แต่แฝงไปด้วยน้ำตาลจำนวนมาก
  • เฉลี่ยน้ำตาลสูงถึง 10-12 ช้อนชา/แก้ว (ปริมาณ 22-24 ออนซ์)
  • บางสูตรใส่นมข้นหวาน และไซรัป เพื่อเพิ่มความหวานมากขึ้น
  • การดื่มแบบ ทุกวัน หรือ วันละหลายแก้ว เท่ากับสะสมน้ำตาลหลายสิบช้อนต่อสัปดาห์

องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า ผู้ใหญ่ไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา/วัน เพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)

  1. เครื่องดื่มสำเร็จรูป แฝงความหวานในขวดเล็กๆ เครื่องดื่มที่ซื้อได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ หลายคนคิดว่า แค่ขวดเล็กๆ คงไม่เป็นไร แต่น้ำตาลที่แฝงอยู่กลับสูงอย่างคาดไม่ถึง เช่น
  • นมเปรี้ยวขวดเล็ก (ปริมาณ 100 มล.) มีน้ำตาลประมาณ 4 ช้อนชา
  • เครื่องดื่มชูกำลัง (1 ขวดเล็ก) มีน้ำตาลประมาณ 6 ช้อนชา
  • ชาเขียวรสน้ำผึ้ง (ขวด 500 มล.) มีน้ำตาลเฉลี่ย 8-12 ช้อนชา ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ

การดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นประจำอาจทำให้น้ำตาลเกินโดยไม่รู้ตัว และส่งผลต่อระดับอินซูลินในร่างกาย ทำให้น้ำตาลตกค้าง เปลี่ยนเป็นไขมันสะสมรอบเอวได้ง่าย

 

  1. น้ำอัดลมทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสีดำ สีใส หรือรสผลไม้ล้วนมีน้ำตาลสูงมาก
  • เฉลี่ย 7 ช้อนชา/กระป๋อง (ประมาณ 325 มล.)
  • แม้จะมีน้ำอัดลมสูตร “ไม่มีน้ำตาล” แต่หากดื่มมากก็มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว เนื่องจากสารให้ความหวานสังเคราะห์อาจมีผลต่อสุขภาพลำไส้ และกระตุ้นความอยากของหวาน

 

ดื่มอย่างไรไม่ให้พุงมา

  • เลือกน้ำเปล่าเป็นหลัก ดื่มให้ได้ 6-8 แก้ว/วัน
  • เปลี่ยนมาเป็นน้ำสมุนไพรไม่ใส่น้ำตาล เช่น น้ำมะตูม น้ำใบเตย หรือชามะนาวไม่หวาน
  • ถ้าอยากดื่มเครื่องดื่มเย็น แนะนำให้สั่ง หวานน้อย หรือ ไม่ใส่นมข้น
  • ควบคุมปริมาณ เครื่องดื่มหวานจัด ควรจำกัดไม่เกิน 1 แก้ว/สัปดาห์
  • อ่านฉลากโภชนาการก่อนซื้อเสมอ โดยเฉพาะปริมาณน้ำตาล และพลังงานต่อหน่วยบริโภค

 

ดื่มหวานจัดทุกวัน พุงมาแน่ สุขภาพแย่ตามมา

เครื่องดื่มหวานๆ เย็นๆ ชื่นใจอาจให้ความสุขเพียงชั่วครู่ แต่ถ้าไม่ระวัง น้ำตาลจะกลายเป็นไขมันสะสมพุง และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่ต้องรักษายาวนาน ควรดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ ด้วยการเริ่มลดหวาน ลดเครื่องดื่มที่เพิ่มพุง แล้วหันมาเลือกดื่มน้ำเพื่อสุขภาพแทน




Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.